
มิติสิ่งแวดล้อม
นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานทุกขั้นตอน ดังนี้
- ใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- บริหารทุกกระบวนการของการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการใส่ใจ ดูแล รักษา เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
- ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
-
ส่งเสริมให้ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อน้ำ อากาศ ดิน ป่าไม้ ระบบนิเวศ และการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
- การลดก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Gas) ด้วยการตรวจสอบยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสินค้าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเพื่อป้องกันการเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์
- การบริหารจัดการไฟฟ้า และน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการให้ความรู้แก่พนักงาน และลูกจ้างในการใช้ไฟฟ้า และน้ำอย่างรู้คุณค่าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำ
- การลดการใช้วัสดุ อุปกรณ์สำนักงาน การนำกลับไปใช้ซ้ำหรือรีไซเคิล การปรับรูปแบบ บรรจุภัณฑ์ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง และการลดกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดมลพิษ
- การบริหารจัดการและกำจัดของเหลือ หรือขยะอย่างถูกวิธี เพื่อให้บริษัทสามารถบริหารจัดการขยะ ของเสียและมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ ดิน น้ำ และอากาศ
- ให้ความร่วมมือกับองค์กร ระดับท้องถิ่นและนานาชาติ และชุมชนรอบสถานประกอบการในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรและดูแลสิ่งแวดล้อม การปรับตัวและการบรรเทา ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้มีประสิทธิภาพ
- ร่วมลงทุน และบริหารจัดการธุรกิจร่วมกับพันธมิตรโดยคำนึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- เปิดให้มีการร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ หากพบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทฯ
การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญและคำนึงถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและจรรยาบรรณ ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจและสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) รวมถึงแนวปฏิบัติตามมาตรฐานสากลต่าง ๆ โดยได้มีการถ่ายทอดนโยบายไปสู่ระดับปฏิบัติการในทุกหน่วยงาน และจัดทำนโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืนครอบคลุมหลากหลายมิติ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 5 กระบวนการหลัก ดังนี้
กระบวนการที่ 1: การวิเคราะห์บริบทความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อกำหนดประเด็นสำคัญด้านความ ยั่งยืนขององค์กร
กระบวนการที่ 2: การกำหนดนโยบายด้านความยั่งยืนขององค์กร
กระบวนการที่ 3: การกำหนดกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนยั่งยืนขององค์กร
กระบวนการที่ 4: การขับเคลื่อนกลยุทธ์ไปสู่การปฏิบัติจริงในทุกระดับขององค์กร
กระบวนการที่ 5: การติดตาม ตรวจสอบ และเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนอย่างโปร่งใส
บริษัทฯ ได้จัดทำนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ให้ความสำคัญกับทั้งสามมิติหลัก ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านการกำกับดูแลกิจการ พร้อมส่งเสริมให้พนักงาน คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ทั้งในระดับองค์กรและสังคมโดยรวม
เป้าหมายด้านความยั่งยืนในปี 2567
- บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ร้อยละ 5 ในปี 2567 เทียบกับปี 2566
- การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการลดการใช้น้ำในกระบวนการต่าง ๆ ผ่านการเลือกใช้แหล่งน้ำที่เหมาะสม เช่น น้ำบาดาล และการปรับปรุงวิธีการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว (ปี 2567 - 2572)
- บริษัทฯ มีการกำหนดนโยบายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายองค์กรในการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ลงให้ได้ร้อยละ 20 ภายในปี 2572 เทียบกับฐานปี 2567
การบริหารจัดการด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญที่ภาคธุรกิจต้องมีส่วนร่วมในการรับมือ
บริษัทฯ แสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการควบคุมและลดการปล่อยคาร์บอน ผ่านการดำเนินงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนระดับโลก เช่น ความตกลงปารีส (Paris Agreement) และแนวทางจากหน่วยงานกำกับดูแล พร้อมทั้งจัดเก็บข้อมูลพลังงานและสถิติเชิงสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ในระยะยาว
โครงการที่ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงาน
1. ระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop)
ในด้านการดำเนินการ บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการติดตั้ง ระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในพื้นที่ดำเนินการหลัก เช่น ฟาร์มผลิต ครัวกลาง และสาขาบางสาขา เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว
สถิติการใช้พลังงาน (หน่วย: kWh)
ปี 2565 | ปี 2566 | ปี 2567 | เป้าหมาย ปี 2568 | เป้าหมาย ระยะยาว | |
---|---|---|---|---|---|
การใช้พลังงานทั้งหมด | 9,824,993 | 14,744,674 | 17,383,046 | 16,500,000 | <16,500,000 |
อัตราการเติบโต | - | 50% | 18% | -5% | - |
การใช้พลังงานหมุนเวียน | 372,500 | 686,882 | 3,018,763 | 5,000,000 | >5,000,000 |
อัตราการเติบโต | - | 84% | 339% | 66% | - |
2. โครงการที่เกี่ยวข้องกับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการเพื่อเข้าร่วมในระบบ คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) ผ่านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้พลังงานสะอาด การทำปุ๋ยหมักจากพืชอินทรีย์ งดการเผาจากการทำฟาร์มอินทรีย์ และการงดการใช้สารเคมี โดยมุ่งหวังให้การลดการปล่อยก๊าซดังกล่าวได้รับการรับรองและสามารถนำไปใช้ในตลาดคาร์บอนสมัครใจ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม
สถิติการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (หน่วย: kg CO2e)
ปี 2565 | ปี 2566 | ปี 2567 | เป้าหมาย ปี 2568 | เป้าหมาย ระยะยาว | |
---|---|---|---|---|---|
การทำปุ๋ยหมักจากพืชอินทรีย์ | -21,128 | -100,904 | -294,702 | -400,000 | >-400,000 |
อัตราการเติบโต | - | -378% | -192% | -36% | - |
งดการเผา | -129,350 | -138,580 | -146,380 | -200,000 | >-200,000 |
อัตราการเติบโต | - | -7% | -6% | -37% | - |
งดการใช้สารเคมี | -2,318,895 | -2,483,899 | -2,623,339 | -3,000,000 | >-3,000,000 |
อัตราการเติบโต | - | -7% | -6% | -14% | - |
รวม | - 2,469,374 | -2,723,383 | -3,064,421 | -3,600,000 | >-3,600,000 |
อัตราการเติบโต | - | -10% | -13% | -17% | - |
เป้าหมายด้านความยั่งยืนในปี 2567
- บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 20-50 ภายในปี 2567 เทียบกับปีฐาน 2566
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว (ปี 2567 - 2572)
- บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยและให้ความร่วมมือในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามความ ตกลงปารีส (Paris Agreement) เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ร้อยละ 20-50 ภายในปี 2572 เทียบกับฐานปี 2567
- กำหนดเป้าหมายมุ่งสู่ Net Zero ในปี 2050
การประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
บริษัทฯ ดำเนินการประเมินความเสี่ยงและโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหลากหลายมิติ ครอบคลุมทั้งมุมมองกลยุทธ์ การดำเนินงาน การเงิน และการปฏิบัติตามข้อกำหนด ที่ครอบคลุมทั้งความเสี่ยงในปัจจุบันและที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk)
ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ความเสี่ยง | รายละเอียด | ผลกระทบต่อบริษัทฯ |
---|---|---|
ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ | การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ภัยแล้ง น้ำท่วม หรือสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรและต้นทุนการผลิต |
|
ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงาน | ผลกระทบจากสภาพอากาศสุดขั้วต่อกระบวนการผลิต การขนส่ง หรือฟาร์มของเครือข่ายเกษตรกร |
|
ความเสี่ยงทางการเงิน | ราคาวัตถุดิบหรือสินค้าเกษตรผันผวนจากภาวะโลกร้อนและภัยธรรมชาติ รวมถึงผลกระทบต่อกำลังซื้อและพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงที่เกิดสภาพอากาศสุดขั้ว เช่น อากาศร้อนจัดหรือฝนตกหนัก |
|
ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ | การเปลี่ยนแปลงกฎหมายหรือข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ภาษีคาร์บอนหรือข้อบังคับด้านการปล่อยคาร์บอน |
|
โอกาส | ||
ผลิตภัณฑ์และบริการ | การพัฒนาเมนูหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สนับสนุนการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่น วัตถุดิบท้องถิ่น ผักออร์แกนิก หรือสินค้าคาร์บอนต่ำ |
|
ตลาด | ขยายตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เช่น ผู้บริโภควัยรุ่นหรือคนเมือง |
|
การบริหารจัดการน้ำ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแหล่งน้ำของแต่ละพื้นที่ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ปริมาณน้ำไม่พอเพียงต่อความต้องการของภาคส่วนต่างๆ บริษัทฯ จึงกำหนดแผน และการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้น้ำให้ดียิ่งขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการใช้น้ำ
สถิติการใช้น้ำ (หน่วย: ลบ.ม.)
ปี 2565 | ปี 2566 | ปี 2566 | เป้าหมายปี 2568 | เป้าหมายระยะยาว | |
---|---|---|---|---|---|
ปริมาณการใช้น้ำ | 127,161 | 177,266 | 231,727 | 220,000 | <220,000 |
อัตราการเติบโต | - | 39% | 31% | -5% | - |
ปริมาณการใช้น้ำบาดาล | 246,983 | 246,983 | 332,579 | 400,000 | >400,000 |
อัตราการเติบโต | - | 14% | 18% | 20% | - |
เป้าหมายด้านการจัดการน้ำในปี 2567
- บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายในการลดการใช้น้ำร้อยละ 5-10 ภายในปี 2567 เทียบกับปีฐาน 2566
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว (ปี 2567 - 2572)
- บริษัทฯ มุ่งมั่นบริหารจัดการลดปริมาณการใช้น้ำร้อยละ 10 ในปี 2572 เพื่อความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมและลดความเสี่ยงเรื่องปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคส่วนต่าง ๆ ในระยะยาว
การบริหารจัดการของเสีย
การจัดการของเสียเป็นองค์ประกอบสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทในการลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นบริหารจัดการของเสียอย่างครอบคลุม ด้วยแนวทาง “Zero Waste to Landfill” โดยเน้นการลด คัดแยก และนำของเสียกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ให้มากที่สุด เพื่อลดปริมาณของเสียที่ถูกส่งไปฝังกลบให้เหลือน้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์
โครงการที่ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงาน
การลดขยะให้เป็นศูนย์
บริษัทฯ ยึดมั่นในแนวคิดการลดขยะให้เป็นศูนย์ หรือ Zero waste โดยการนำขยะธรรมชาติ เช่น เศษใบไม้ กิ่งไม้ เปลือกข้าวโพด แกลบ ขี้วัว ขี้เถ้า เป็นต้น ซึ่งเป็นขยะธรรมชาติจากบ้านเรือน ท้องถนน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงเศษผักเหลือทิ้งจากการตัดแต่งหลังเก็บเกี่ยว และเศษขยะอินทรีย์จากร้านอาหารในสาขาเชียงใหม่ 2 สาขา มาแปรรูป ผ่านกระบวนการต่างๆ จนกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ในการปลูกพืชผักในสวนของบริษัทฯ รวมถึงมีการแจกจ่ายปุ๋ยอินทรีย์ให้แก่คนในชุมชนใกล้เคียงเพื่อนำไปใช้ในการเพาะปลูก
สถิติปริมาณของเสียทั้งหมด (หน่วย: กิโลกรัม)
ปี 2565 | ปี 2566 | ปี 2567 | เป้าหมาย ปี 2568 | เป้าหมาย ระยะยาว | |
---|---|---|---|---|---|
ปริมาณของเสียทั้งหมด | 2,186,195 | 3,113,433 | 4,741,942 | <4,741,942 | <4,741,942 |
อัตราการเติบโต | - | 42% | 52% | - | - |
ปริมาณของเสียไม่อันตราย | 58,734 | 57,822 | 105,140 | <105,140 | <105,140 |
ปริมาณของเสียอันตราย | - | - | - | - | - |
เป้าหมายด้านการจัดการของเสียในปี 2567
- การลดการจัดการของเสียด้วยวีธีฝังกลบให้เป็นศูนย์ และการบริหารจัดการของเสียอย่างครอบคลุมในทุกกระบวนการการดำเนินธุรกิจ
เป้าหมายด้านการจัดการของเสียระยะยาว (ปี 2567 - 2572)
- การจัดการขยะภายในบริษัทฯ ผ่านกระบวนการ “Zero Waste to Landfill” โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำขยะกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตให้ได้มากที่สุด
บริษัทฯ จะดำเนินการปรับปรุงมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับส่งเสริมให้พนักงาน คู่ค้า และชุมชน มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในระยะยาวต่อธุรกิจและสังคม
ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม
การทำเกษตรอินทรีย์
กระบวนการหลักในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ คือ การปลูกผัก ผลไม้ และดอกไม้ทานได้ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหาร และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทฯ เอง ซึ่งบริษัทฯ ใช้กระบวนการเกษตรอินทรีย์ในการเพาะปลูกพืชผักทุกชนิด และยึดมั่นบนวิถีเป็นวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ซึ่งคือ “เรามุ่งมั่นเดินบนวิถีอินทรีย์ที่ดีต่อตัวเราและสังคม”

การลดขยะให้เป็นศูนย์
บริษัทฯ ยึดมั่นในแนวคิดการลดขยะให้เป็นศูนย์ หรือ Zero waste โดยการนำขยะธรรมชาติ เช่น เศษใบไม้ กิ่งไม้ เปลือกข้าวโพด แกลบ ขี้วัว ขี้เถ้า เป็นต้น ซึ่งเป็นขยะธรรมชาติจากบ้านเรือน ท้องถนน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงเศษผักเหลือทิ้งจากการตัดแต่งหลังเก็บเกี่ยว และเศษขยะอินทรีย์จากร้านอาหารในสาขาเชียงใหม่ 2 สาขา มาแปรรูป ผ่านกระบวนการต่างๆ จนกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อใช้ในการปลูกพืชผักในสวนของบริษัทฯ โดยในงวดปี 2564 - 2566 บริษัทฯ มีการนำขยะธรรมชาติมาแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ได้ประมาณ 1,000 - 2,000 ตันต่อปี

การติดตั้งแผงโซลาร์
บริษัทฯ คำนึงถึงการใช้พลังงานสะอาดในการดำเนินธุรกิจ โดยมีการติดตั้งและวางระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่โรงเรือนเพาะปลูก ครัวกลาง และร้านอาหารของบริษัทฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนในกระบวนการต่างๆ ของบริษัทฯ
โครงการส่งเสริมป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ
บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และต้องการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการรณรงค์ส่งเสริมให้คนในชุมชนเกิดความตระหนักถึงพิษภัยของหมอกควันและมลพิษ และลดการเผาป่าและพื้นที่เกษตร เพื่อแก้ปัญหมอกควันในระยะยาว โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับ CSE ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ดังนี้



โครงการสร้างฝาย และปลูกป่าต้นน้ำ
บริษัทฯ ได้สนับสนุนกิจกรรมการปลูกป่าต้นน้ำ และการสร้างฝายในพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำ และสร้างฝายเพื่อชะลอความเร็วของน้ำเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย รวมถึงสามารกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อนการอุปโภค และใช้ในการเกษตรได้เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง

โครงการปลูกกาแฟ รักษาป่า ลด PM 2.5
ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทฯ มีโครงการสนับสนุนการปลูกกาแฟแบบอินทรีย์ให้แก่ชุมชนที่บ้านปางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน เนื่องจากกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง และมีตลาดที่กว้างขวางในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งการปลูกกาแฟแบบอินทรีย์ช่วยลดการใช้สารเคมีและส่งเสริมให้คนในชุมชนใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังช่วยลดการเผาป่า และลดมลพิษทางอากาศ หรือ PM 2.5 ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังไม่ได้มีการจัดทำข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการวางแผนศึกษาแนวทางการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากการดำเนินธุรกิจและการว่าจ้างผู้ทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ขององค์กรที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เพื่อวิเคราะห์ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถจัดทำรายงาน และทวนสอบข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการขอรับรองรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ISO 14064-1 ภายในปี 2569